Home > About Us > Privacy Policy > นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า
 

 บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคลของท่านในฐานะลูกค้าของบริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
 

1. คำจำกัดความ

 

 ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ คำหรือข้อความมีความหมายดังต่อไปนี้
 

คำหรือข้อความ ความหมาย

1.1 กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

1.4 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

1.5 บริษัทฯ

หมายถึง บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

1.6 ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1.7 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1.8 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

1.9 ลูกค้า

หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ยื่นขอเอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้ที่บริษัทฯ เสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผู้มุ่งหวัง ผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย
 

2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

 
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด

2.1 ข้อมูลระบุตัวตน

เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ สถานภาพสมรส วันเกิด อายุ ภาพถ่าย ข้อมูล ลายมือชื่อ บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ข้อมูลตามเอกสารที่ทางราชการออกให้ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนยานพาหนะ ทะเบียนรถ สำเนาโฉนดที่ดิน เป็นต้น) และข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

เช่น ข้อมูลสุขภาพ (เช่น หมู่เลือด อาการบาดเจ็บ ข้อมูลการรักษาพยาบาลทั้งในอดีตและปัจจุบัน ผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด บันทึกหรือประวัติทางการแพทย์ ข้อมูลสุขภาพที่ปรากฏในใบรับรองแพทย์) ข้อมูลประวัติอาชญากรรม (ที่เกี่ยวข้องกับการรับประกันอิสรภาพหรือการรับประกันประเภทอื่น) ข้อมูลศาสนา (ที่อาจปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชน)

โดยบริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งแก่ท่าน และเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

2.3 ข้อมูลติดต่อ

เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร อีเมล ไอดีแอปพลิเคชันไลน์ และข้อมูลอื่น ๆ ของท่านที่บริษัทฯ สามารถใช้ในการติดต่อ เป็นต้น

2.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน

เช่น อาชีพ ตำแหน่ง วันที่เริ่มทำงาน เงินเดือนและรายได้ สถานที่ทำงาน ข้อมูลการติดต่อ หนังสือรับรองเงินเดือน เป็นต้น

2.5 ข้อมูลทางการเงิน

เช่น หมายเลขและรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต / บัตรเดบิตหรือข้อมูลเกี่ยวกับธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินให้แก่บริษัทและอื่น ๆ เป็นต้น

2.6 ข้อมูลที่เกี่ยวกับประกันภัย

เช่น ประวัติการทำประกันภัยของท่านกับบริษัทฯ รายละเอียดการพิจารณารับประกันภัย รายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลการชำระเบี้ยประกันภัย รายละเอียดและประวัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ข้อมูลการเดินทาง รายละเอียดทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่สามารถเชื่อมโยงถึงบุคคลได้ รายละเอียดความคุ้มครอง รายละเอียดผู้เอาประกันภัย รายละเอียดผู้รับผลประโยชน์ และข้อมูลอื่นตามลักษณะประกันภัยแต่ละประเภทของบริษัทฯ เป็นต้น

2.7 ข้อมูลพฤติกรรม

เช่น ความสนใจของลูกค้าในการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ลักษณะการเข้าร่วมกิจกรรมการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายของบริษัทฯ การประเมินความพึงพอใจของลูกค้าต่อการให้บริการของบริษัทฯ เป็นต้น

2.8 ข้อมูลคดี

เช่น ข้อมูลบันทึกประจำวัน ข้อมูลเกี่ยวคดี (เช่น บันทึกจับกุม รายละเอียดเกี่ยวกับโจทก์และจำเลย ข้อหา เลขคดี คำฟ้อง) เป็นต้น

2.9 ข้อมูลด้านเทคโนโลยี

เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น

2.10 ข้อมูลการบันทึก

เช่น บันทึกภาพ บันทึกภาพเคลื่อนไหว บันทึกเสียงการสนทนาเมื่อติดต่อมายังบริษัทฯ และบันทึกโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น

  หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจไม่สามารถรับประกันภัย ทำธุรกรรมกับท่าน เข้าลงนามสัญญากับท่าน ดำเนินการใด ๆ ตามที่ท่านร้องขอหรือตามหน้าที่ในสัญญา หรือไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบให้ท่านได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่ท่านหรือบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  นอกจากการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวข้างต้น บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการรับประกันภัย การพิจารณาสินไหมทดแทน ตลอดจนกระบวนการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัทฯ ได้แก่ ผู้รับผลประโยชน์ คู่สมรส บุตร บิดา มารดา สมาชิกในครอบครัวของท่าน ผู้ชำระเงินตามกรมธรรม์ ผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ผู้ค้ำประกัน หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยท่านรับทราบและยืนยันว่าจะดำเนินการแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรับทราบ และในกรณีที่จำเป็นต้องขอความยินยอมบุคคลอื่นตามกฎหมาย ท่านจะดำเนินการดังกล่าวก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ ตามที่บริษัทฯ อาจร้องขอ

 

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงหรือช่องทางอื่น ซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

 3.1 ใบสมัคร แบบฟอร์ม และ/หรือ เอกสารอื่นใด

  เมื่อท่านขอซื้อผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการตามช่องทางของบริษัทฯ เช่น ประกันภัยส่วนบุคคล ประกันภัยกลุ่ม หรือประกันภัยประเภทอื่นของบริษัทฯ เป็นต้น และท่านมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือส่งเอกสาร เช่น แบบฟอร์มคำขอเอาประกันภัย เว็ปไซต์บริษัทฯ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ ช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ หรือช่องทางอื่นใดของบริษัทฯ เป็นต้น มายังบริษัทฯ เพื่อดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

 3.2 การติดต่อสื่อสารใด ๆ

  ท่านอาจติดต่อสื่อสาร สอบถาม สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลกับบริษัทฯ โดยตรง หรือได้รับการติดต่อจากพนักงานเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ตัวแทนประกันภัย นายหน้าประกันภัย คู่ค้าของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ผ่านทางเว็ปไซต์บริษัทฯ แอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ ช่องทางออนไลน์ ไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นใด

 3.3 ผู้รับมอบอำนาจ ผู้ติดต่อ หรือผู้ประสานงานของท่าน

  บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้รับมอบอำนาจ ผู้ติดต่อ ผู้ประสานงาน สมาชิกในครอบครัว ญาติ หรือบุคคลอื่นใดที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 3.4 การเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ

  บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านเข้าร่วมประชุม อบรม กิจกรรมทางการตลาด หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทฯ และท่านได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

 3.5 หน่วยงานหรือองค์กรอื่น

  บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหน่วยงานหรือองค์กรอื่นที่น่าเชื่อถือ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โรงพยาบาล สถานบริการสาธารณสุข สำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ ธนาคารพาณิชย์ นายหน้าประกันภัย ผู้ประกอบธุรกิจประกันภัยอื่น คู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ หน่วยกู้ชีพ เป็นต้น

 3.6 แหล่งข้อมูลสาธารณะ

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเว็บไซต์สาธารณะที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียน หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือโซเชียลมีเดีย เป็นต้น หรือเป็นข้อมูลที่ท่านเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยตนเอง

 

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

 
ลำดับ วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล

4.1

เพื่อดำเนินการเข้าทำสัญญาประกันภัยตามที่ท่านร้องขอ หรือเพื่อให้บริการตามสัญญาประกันภัยกับท่าน เช่น

  1. เพื่อเสนอขายและพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือบริการประกันภัยที่เหมาะสมให้แก่ท่าน

  2. เพื่อพิจารณาและประเมินคำขอซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือบริการประกันภัยตามที่ท่านร้องขอ รวมถึงการคำนวณเบี้ยประกันภัย การจัดทำเอกสารเสนอราคาเพื่อนำเสนอแก่ท่าน และการปฏิเสธการรับประกันภัยแต่ละประเภท

  3. เพื่อเสนอ พิจารณา และส่งข้อมูลรับประกันภัยต่อตามคำขอซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือบริการประกันภัยของท่าน

  4. เพื่อพิจารณารับประกันภัยและออกกรมธรรม์ประกันภัยแก่ท่าน รวมถึงการแจ้งผล การให้คำแนะนำ และการนำส่งกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ท่าน

  5. เพื่อบริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ท่านซื้อ เช่น การให้คำแนะนำ ตอบข้อสอบถาม หรือข้อร้องเรียนของท่าน การเก็บเบี้ยประกันภัยหรือเบี้ยประกันค้างชำระ การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่น การแก้ไขข้อมูลตามที่ท่านร้องขอ การปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกกรมธรรม์ การแจ้งกรมธรรม์หมดอายุ การต่ออายุกรมธรรม์ การจัดทำเอกสารด้านภาษี เป็นต้น

● เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

● เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

4.2

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของท่านหรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น การรับแจ้งอุบัติเหตุ การตรวจสอบเกี่ยวกับลักษณะการเกิดเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล การเจรจาค่าสินไหมทดแทนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง การพิจารณาค่าสินไหมทดแทน การตรวจสอบความถูกต้องก่อนดำเนินการจ่าย การจ่ายค่าสินไหมทดแทน การดำเนินคดีหรือจัดการข้อพิพาทที่เกี่ยวกับการเรียกค่าสินไหมทดแทน

● เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

● เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

● เพื่อการก่อตั้ง ใช้ และยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.3

เพื่อประสานงานและติดต่อสื่อสารกับท่าน เช่น การติดต่อหรือประสานงานตามที่ท่านร้องขอ การติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทฯ การประสานงานกับฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องเมื่อท่านติดต่อมาที่บริษัทฯ การให้บริการและให้ข้อมูลเบื้องต้นแก่ท่าน การสื่อสารแก่ท่านกรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขหรือนโยบายใด ๆ ของบริษัทฯ เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

4.5

เพื่อจัดการภายในบริษัทฯ ออกแบบ พัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ บริการ และธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การจัดการข้อมูลภายในองค์กร การบันทึกข้อมูลของท่านที่ติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ การสำรวจข้อมูล การวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่าน การวิเคราะห์ฐานลูกค้า การออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ การวิเคราะห์ภายในองค์กรเพื่อการปรับปรุง การเปิดและขยายกิจการสาขาและสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

4.6

เพื่อจัดเก็บข้อมูลผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือเพื่อใช้ข้อมูลมอบสิทธิประโยชน์ ของรางวัล ของขวัญให้แก่ท่านหรือบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมกิจกรรม

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

4.7

เพื่อติดต่อสื่อสารและการทำการตลาดกับท่าน เช่น การศึกษาพฤติกรรมและวิเคราะห์ข้อมูลของท่าน การทำการวิเคราะห์และวิจัยทางการตลาด การแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทฯ การประชาสัมพันธ์ เสนอขาย โฆษณา หรือส่งข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายแก่ท่าน การแจ้งข้อมูลการตลาดทางโทรศัพท์ ข้อความ หรืออีเมล เป็นต้น รวมทั้งเปิดเผยข้อมูลของท่านต่อพันธมิตทางธุรกิจเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน

● ความยินยอม

4.8

เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น การนำส่งข้อมูลของท่านให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล การจดทะเบียนทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัทฯ การแจ้งขึ้นทะเบียนบุคลากรหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย การจัดทำรายงานภาษียื่นต่อกรมสรรพากร การตรวจสอบทางบัญชีโดยผู้สอบบัญชี และการดำเนินการตามคำร้องขอจากหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นต้น

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ

4.9

เพื่อตรวจสอบหรือตรวจประเมินทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานในการดำเนินงานและให้เป็นไปตามข้อกำหนดหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ

4.10

เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนหรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

● เพื่อการก่อตั้ง ใช้ และยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.11

เพื่อตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยเกี่ยวกับการให้บริการ ระบบงาน ทรัพย์สิน หรือพื้นที่ภายในและภายนอกบริษัทฯ โดยมีการบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายที่เกิดต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เพื่อตรวจสอบ และเพื่อเป็นหลักฐานการกระทำความผิด รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายตามที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

4.12

เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดในอนาคตนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ข้างต้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบเพิ่มเติมในนโยบายฉบับนี้ -
 

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งข้างต้นให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้

 5.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 5.2 ผู้เข้าทำธุรกรรมประกันภัยหรือใช้บริการกับบริษัทฯ เช่น ในกรณีการรับประกันภัยกลุ่ม บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ถือกรมธรรรม์ประกันภัย หรือนายจ้างหรือบริษัทต้นสังกัดของท่าน

 5.3 คู่สัญญา คู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยหรือการให้บริการของบริษัทฯ เช่น ผู้รับประกันภัยต่อ ตัวแทนประกันภัย นายหน้าประกันภัย ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล ศูนย์หรือบริษัทให้บริการดูแลรถยนต์ อู่รถยนต์ ผู้จัดจำหน่าย หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

 5.4 ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการคลาวด์หรือให้บริการเก็บข้อมูล ผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลลูกค้า (Call Center) ผู้ให้บริการสำรวจภัย บริษัทรับจ้างประเมินทรัพย์สิน หรือผู้ให้บริการอื่นใดที่ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

 5.5 ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ทนายความ เป็นต้น

 5.6 หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สมาคมประกันวินาศภัยไทย กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

 5.7 บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยของท่านหรือการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เช่น ผู้รับมอบอำนาจของท่าน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน สมาชิกในครอบครัว ญาติ ตัวแทน ผู้ประสานงาน เป็นต้น

 

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

 

 บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นกรณีที่บริษัทฯ ต้องขอความยินยอมจากท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อน และจะดำเนินการตรวจสอบว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดหรือไม่ และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

 

7. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

 

 7.1 บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นไปตามระยะเวลาที่แจ้งให้ท่านทราบ โดยบริษัทฯ อาจพิจารณาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปถ้ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องจะอนุญาต หรือบริษัทฯ และท่านยังคงมีนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ และยังไม่ถอนความยินยอม หรือบริษัทฯ ยังจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอม และบริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

 7.2 ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกี่ยวข้องกับการประกันภัยหรือการให้บริการประกันภัย บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับบริษัทฯ

 7.3 ในกรณีที่วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดบริษัทฯ ไม่สามารถระบุระยะเวลาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทจะพิจารณาระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

 7.4 เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะจัดให้มีการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 8.1 ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. ท่านมีสิทธิที่จะทราบหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

  2. ท่านมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  3. ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  4. ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

  5. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  6. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  7. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  8. ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศที่ออกตามกฎหมาย

 8.2 ในกรณีที่การถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อท่านในเรื่องใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น โดยการถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

 8.3 บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิข้างต้นสามารถดำเนินการได้ตามรายละเอียดในข้อ 11.

 

9. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและ/หรือแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ โดยจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล

 

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

 

 นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดและวิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทฯ อาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปและบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ผ่านทางช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ หรือช่องทางอื่นตามความเหมาะสม

 

11. ช่องทางการติดต่อ

 

 หากท่านประสงค์จะติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (Data Protection Officer หรือ DPO) หรือใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อหรือดำเนินการได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

 ติดต่อบริษัทฯ:

 

 บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

 34 ซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. 10110

 โทรศัพท์: 02-253-4141, 02-253-4343

 โทรสาร: 02-254-5500

 อีเมล: info@thaipat.co.th

 ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ:

 

 ชื่อ: นายภูบดินทร์ คุณผลิน

 โทรศัพท์: 02-253-4141

 อีเมล: phubadin@thaipat.co.th

 วิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล:

 
  1. ให้ทำการ download แบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ https://thaipat.co.th/getattachment/0fe86ba6-26fb-40d2-909f-4452e522511b/Right-Management-Form.aspx

  2. กรอกแบบฟอร์มตามข้อ 1 แล้วส่งกลับมาที่ E-Mail : dpo@thaipat.co.th

  3. ทางบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องขอ และจะแจ้งผลให้ทราบโดยเร็ว

  4. หากไม่ได้รับคำตอบ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดด้านบน