Home > About Us > Privacy Policy > นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน

นโยบายความเป็นส่วนตัว

สำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน

 

 บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในความเป็นส่วนตัวของบุคคลของท่านในฐานะผู้สมัครงานและพนักงาน จึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อเป็นหลักในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

 

1. คำจำกัดความ

 

 ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ คำหรือข้อความมีความหมายดังต่อไปนี้

 
คำหรือข้อความ ความหมาย

1.1 กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

1.4 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

1.5 บริษัทฯ

หมายถึง บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

1.6 ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1.7 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

1.8 ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

1.9 ผู้สมัครงาน

หมายถึง บุคคลที่สมัครใจเข้ารับการคัดเลือกเป็นพนักงานและลูกจ้างของบริษัทฯ และเป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของบริษัทฯ เพื่อเข้าร่วมทำงานกับบริษัทฯ

1.10 พนักงาน

หมายถึง พนักงานประจำ ผู้ช่วยพนักงาน พนักงานชั่วคราว พนักงานสัญญาจ้าง หรือบุคคลอื่นใดที่ทำงานหรือปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัทฯ โดยได้รับค่าจ้าง สวัสดิการ หรือค่าตอบแทนอื่นจากบริษัทฯ เพื่อตอบแทนการทำงาน

1.11 สมาชิกในครอบครัว

หมายถึง สมาชิกในครอบครัวของผู้สมัครงานหรือพนักงาน เช่น บิดา มารดา คู่สมรส ผู้ติดต่อฉุกเฉิน เป็นต้น

1.12 บุคคลอ้างอิง

หมายถึง บุคคลที่ผู้สมัครงานหรือพนักงานได้ให้ข้อมูลไว้ เช่น บุคคลในบริษัทฯ ที่เคยร่วมงาน นายจ้างเดิม สถาบันการศึกษา พนักงานของบริษัทฯ เป็นต้น
 

2. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

 

 2.1 กรณีผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

 
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
  1. ข้อมูลระบุตัวตน

เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ วันเกิด อายุ ภาพถ่าย ลายมือชื่อ วุฒิการศึกษา ประวัติการศึกษา บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ข้อมูลตามเอกสารที่ทางราชการออกให้ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่ เป็นต้น) และข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น
  1. ข้อมูลติดต่อ

เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล ไอดีแอปพลิเคชันไลน์ และข้อมูลอื่น ๆ ของท่านที่บริษัทฯ สามารถใช้ในการติดต่อ เป็นต้น
  1. ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน

เช่น ประวัติการทำงาน หนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือรับรองการทำงาน เป็นต้น
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

เช่น ศาสนา เชื้อชาติ สุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องใช้ในการพิจารณารับท่านเข้าทำงาน

โดยบริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งแก่ท่าน และเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

 2.2 กรณีพนักงาน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

 
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
  1. ข้อมูลระบุตัวตน

เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล เพศ วันเกิด อายุ สัญชาติ ภาพถ่าย ลายมือชื่อ ประวัติการศึกษา ประวัติการเข้าอบรม ข้อมูลผลงาน/เกียรติบัตร ข้อมูลตามเอกสารที่ทางราชการออกให้ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบขับขี่ เป็นต้น) และข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้ เป็นต้น
  1. ข้อมูลติดต่อ

เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อีเมล ไอดีแอปพลิเคชันไลน์ และข้อมูลอื่น ๆ ของท่านที่บริษัทฯ สามารถใช้ในการติดต่อ เป็นต้น
  1. ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน

เช่น ประวัติการทำงาน หนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือรับรองการทำงาน รหัสพนักงาน วันที่เริ่มทำงาน ตำแหน่งงาน แผนกงาน ข้อมูลของท่านระหว่างปฏิบัติงานกับบริษัทฯ (เช่น ข้อมูลระยะเวลาปฏิบัติงาน ข้อมูลการประเมินผลการปฏิบัติงาน ข้อมูลการใช้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ข้อมูลการอบรม ข้อมูลการลา) เป็นต้น
  1. ข้อมูลทางการเงิน

เช่น หมายเลขและรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีธนาคาร ข้อมูลเกี่ยวกับภาษี ข้อมูลการเบิกค่าใช้จ่าย ข้อมูลเงินเดือนหรือค่าตอบแทน ข้อมูลการเบิกจ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เป็นต้น
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

เช่น สุขภาพ (เช่น กรณีการตรวจสุขภาพประจำปี การเบิกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือทันตกรรม การแสดงหลักฐานการรักษาทางการแพทย์) ข้อมูลความพิการ (กรณีบริษัทฯ จ้างงานผู้พิการตามกฎหมาย) หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวมระหว่างที่ท่านปฏิบัติงานกับบริษัทฯ เป็นต้น

โดยบริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งแก่ท่าน และเมื่อบริษัทฯ ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

  1. ข้อมูลด้านเทคโนโลยี

เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
  1. ข้อมูลการบันทึก

เช่น บันทึกภาพ บันทึกภาพเคลื่อนไหว บันทึกเสียง และบันทึกโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น

 หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีข้อมูลไม่เพียงพอสำหรับพิจารณาและรับท่านเข้าทำงาน หรือไม่สามารถเข้าลงนามสัญญากับท่าน หรือดำเนินการใด ๆ ตามที่ท่านร้องขอหรือตามหน้าที่ในสัญญา หรือไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบให้ท่านได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่ท่านหรือบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตาม อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

 นอกจากการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวข้างต้น บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน ได้แก่ บุคคลอ้างอิง สมาชิกในครอบครัวของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ โดยท่านรับทราบและยืนยันว่าจะดำเนินการแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องรับทราบ และในกรณีที่จำเป็นต้องขอความยินยอมบุคคลอื่นตามกฎหมาย ท่านจะดำเนินการดังกล่าวก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ ตามที่บริษัทฯ อาจร้องขอ

 

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงหรือช่องทางอื่น ซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

 3.1 ใบสมัครงาน และ/หรือ เอกสารอื่นใด

  บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากใบสมัครงาน Resume CV หรือเอกสารอื่นใดที่ท่านได้ยื่นที่สถานที่ของบริษัทฯ หรือเว็ปไซต์บริษัทฯ หรือช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ

 3.2 การติดต่อสื่อสารใด ๆ

  บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการสัมภาษณ์ สอบถาม หรือติดต่อสื่อสารกับท่าน โดยอาจผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล ไปรษณีย์ แอปพลิเคชั่นไลน์ หรือช่องทางติดต่ออื่นใดของบริษัทฯ

 3.3 ผู้ให้บริการด้านการสรรหาทรัพยากรบุคคล

  ในกรณีที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางผู้ให้บริการสมัครงานและจัดหางานเพื่อสมัครงานกับบริษัทฯ บริษัทฯ จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางดังกล่าว

 3.4 แหล่งข้อมูลสาธารณะ

  บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเว็บไซต์สาธารณะที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของบริษัทจดทะเบียน หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือโซเชียลมีเดีย เป็นต้น หรือเป็นข้อมูลที่ท่านเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยตนเอง

 3.5 บุคคลอื่น

  บริษัทฯ อาจมีการสอบถามและได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลอื่น เช่น บุคคลอ้างอิง สมาชิกในครอบครัว พนักงานของบริษัทฯ หรือบุคคลภายนอกอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นต้น

 

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

 4.1 บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

 
ลำดับ วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล
  1.  
เพื่อพิจารณาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการรับสมัครงาน เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลท่านในใบสมัครงานและเอกสารประกอบการสมัครงาน การประเมินความรู้และความสามารถของท่าน การสัมภาษณ์ การแจ้งผลการสัมภาษณ์งาน การตัดสินใจจ้างงาน และการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

● เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

  1.  
เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน เช่น การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวกับการสัมภาษณ์ การจัดส่งเอกสาร การติดต่อบุคคลอ้างอิงของท่านในกรณีจำเป็นและฉุกเฉิน การขอข้อมูลเพิ่มเติม การตอบคำถาม การแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือนโยบายของบริษัทฯ

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  

บริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. เพื่อประเมินสภาวะสุขภาพของผู้สมัครงานให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน

  2. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติหรือตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของท่าน โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามวิธีการที่กฎหมายกำหนด

  3. เพื่อบริหารจัดการสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ให้เหมาะสมตามศาสนาที่ท่านนับถือ

● ความยินยอม

  1.  
เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานอื่นของบริษัทฯ ที่เหมาะสมกับคุณสมบัติของท่าน

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่อตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยบริเวณพื้นที่ภายในและภายนอกบริษัทฯ โดยมีการบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงของท่าน ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายตามที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

4.2 บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

 
ลำดับ วัตถุประสงค์ ฐานการประมวลผล
  1.  
เพื่อการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญาจ้างและสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว และการจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของท่าน

● เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

  1.  

เพื่อดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนและบริหารจัดการสวัสดิการ ได้แก่

  1. เพื่อจ่ายเงินเดือน ค่าทำงานล่วงเวลาค่าตอบแทนอื่นจากการทำงาน โบนัส หรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาจ้าง และสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้แก่ท่าน

  2. เพื่อจัดการสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่าง ๆ แก่ท่านและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การรักษาพยาบาล การตรวจสุขภาพประจำปี การทำประกันกลุ่ม การจัดให้มีประกันสังคม การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การจัดการการลาตามกฎหมาย และการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามสิทธิประโยชน์ของท่าน เป็นต้น

● เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ

● ความยินยอม

  1.  
เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลและการจัดการภายในองค์กร เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลการทำงานของท่าน การบันทึกการเข้าหรือออกงานและชั่วโมงทำงาน การประเมินการปฏิบัติงานและผลการทำงาน การพิจารณาปรับเงินเดือน การพิจารณาปรับหรือเปลี่ยนตำแหน่งงาน การจัดการกรณีมีข้อร้องเรียน การดำเนินการทางวินัย การพิจารณาเลิกจ้าง ออกจากงาน หรือเกษียณอายุ การรับรองการทำงาน และการวางแผนและจัดการภายในอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่อการติดต่อสื่อสาร การประชาสัมพันธ์งานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทฯ การแจ้งข้อกำหนดและนโยบายของบริษัทฯ การแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือประชาสัมพันธ์ หรือการสื่อสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่ออบรมและพัฒนาบุลากรทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ เช่น การจัดฝึกอบรมและสัมมนา การอำนวยความสะดวกในการสมัครฝึกอบรมต่าง ๆ การจัดประชุมภายในและภายนอกองค์กร การบันทึกข้อมูลผู้เข้าร่วมการอบรม เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  

เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ได้แก่

  1. การนำส่งข้อมูลแก่ประกันสังคม

  2. การนำส่งข้อมูลแก่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

  3. การจ้างงานคนพิการและนำส่งข้อมูลแก่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

  4. การจัดการด้านภาษีตามประมวลรัษฎากร

  5. การสอบบัญชี

  6. การปฏิบัติตามคำสั่งศาล และ/หรือคำสั่งจากหน่วยงานของรัฐ และการปฏิบัติตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่อตรวจสอบหรือตรวจประเมินทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานในการดำเนินงานและให้เป็นไปตามข้อกำหนดหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

● เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่อบริหารจัดการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ เช่น การจัดระบบติดต่อสื่อสาร การบริหารจัดการเว็ปไซต์บริษัทฯ การสำรองข้อมูล การจัดให้มีระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและการเช้าใช้งานระบบโดยผู้ที่ไม่มีอำนาจ การดำเนินการตามนโยบายและกระบวนการต่าง ๆ ของบริษัทฯ เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

  1.  
เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนหรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี หรือการต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

● เพื่อการก่อตั้ง ใช้ และยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  1.  
เพื่อตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยเกี่ยวกับระบบงาน ทรัพย์สิน หรือพื้นที่ภายในและภายนอกบริษัทฯ โดยมีการบันทึกภาพ ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายที่เกิดต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เพื่อตรวจสอบ และเพื่อเป็นหลักฐานการกระทำความผิด รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายตามที่บริษัทฯ ได้รับคำร้องขอ

● เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งข้างต้นให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้

 

 5.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

 5.2 ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาว่าจ้าง

 5.3 ผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการต่าง ๆ เช่น การบริหารจัดการเงินเดือนหรือค่าตอบแทน การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หรืออาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน

 5.4 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นตามที่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่หรือใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศาล โรงพยาบาล เป็นต้น

 5.5 คู่ค้า ผู้รับเหมา คู่สัญญาของบริษัทฯ ที่ท่านเป็นผู้ติดต่อสื่อสารหรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่หรือตำแหน่งของท่าน

 5.6 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน โรงพยาบาลเอกชน เป็นต้น

 5.7 ที่ปรึกษาของบริษัทฯ เช่น ผู้ตรวจสอบภายนอก ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ทนายความ เป็นต้น

 5.8 บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น บุคคลอ้างอิง สมาชิกในครอบครัว เป็นต้น

 

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

 

 บริษัทฯ อาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นกรณีที่บริษัทฯ ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นกรณีที่บริษัทฯ ต้องขอความยินยอมจากท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อน และจะดำเนินการตรวจสอบว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดหรือไม่ และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

 

7. ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

 

 7.1 บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เป็นไปตามระยะเวลาที่แจ้งให้ท่านทราบ โดยบริษัทฯ อาจพิจารณาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปถ้ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องจะอนุญาต หรือบริษัทฯ และท่านยังคงมีนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ และยังไม่ถอนความยินยอม หรือบริษัทฯ ยังจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอม และบริษัทฯ มีความจำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

 7.2 ในกรณีผู้สมัครงานหรือเป็นบุคคลที่ต้องผ่านกระบวนการการสรรหาหรือพิจารณาคัดเลือกของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและข้อมูลส่วนบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องที่ท่านให้กับบริษัทฯ เป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่สมัครงานหรือวันที่ปรับปรุงใบสมัครงานครั้งล่าสุด เพื่ออาจนำมาใช้ติดต่อท่านและสรรหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับท่านในอนาคต

 7.3 ในกรณีพนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและข้อมูลส่วนบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องที่ท่านให้กับบริษัทฯ ไม่เกิน 10 ปี นับแต่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัทฯ สิ้นสุดลง เช่น กรณีท่านลาออก บริษัทฯ เลิกจ้างท่าน หรือเกษียณอายุงาน เป็นต้น เว้นแต่บริษัทฯ มีเหตุผลที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

 7.4 เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะจัดให้มีการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

 

8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 8.1 ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  1. ท่านมีสิทธิที่จะทราบหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

  2. ท่านมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

  3. ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  4. ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน หรือขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

  5. ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  6. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  7. ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้

  8. ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือประกาศที่ออกตามกฎหมาย

 8.2 ในกรณีที่การถอนความยินยอมส่งผลกระทบต่อท่านในเรื่องใด บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอมนั้น โดยการถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย

 8.3 บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิข้างต้นสามารถดำเนินการได้ตามรายละเอียดในข้อ 11.

 

9. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

 

 บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายและ/หรือแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ โดยจะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล

 

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

 

  นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จัดทำขึ้นเพื่อแจ้งรายละเอียดและวิธีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยบริษัทฯ อาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปและบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ผ่านทางช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ หรือช่องทางอื่นตามความเหมาะสม

 

11. ช่องทางการติดต่อ

 

 หากท่านประสงค์จะติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ (Data Protection Officer หรือ DPO) หรือใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อหรือดำเนินการได้ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

 ติดต่อบริษัทฯ:

 

 บริษัท ไทยพัฒนาประกันภัย จำกัด (มหาชน)

 34 ซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. 10110

 โทรศัพท์: 02-253-4141, 02-253-4343

 โทรสาร: 02-254-5500

 อีเมล: info@thaipat.co.th

 ติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ:

 

 ชื่อ: นายภูบดินทร์ คุณผลิน

 โทรศัพท์: 02-253-4141

 อีเมล: phubadin@thaipat.co.th

 วิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล:

 
  1. ให้ทำการ download แบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ https://thaipat.co.th/getattachment/0fe86ba6-26fb-40d2-909f-4452e522511b/Right-Management-Form.aspx

  2. กรอกแบบฟอร์มตามข้อ 1 แล้วส่งกลับมาที่ E-Mail : dpo@thaipat.co.th

  3. ทางบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องขอ และจะแจ้งผลให้ทราบโดยเร็ว

  4. หากไม่ได้รับคำตอบ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตามรายละเอียดด้านบน